เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม ปี 2556
ท่ามกลางบรรยากาศวันคริสต์มาสอีฟอันหนาวเหน็บ
หลังจากเสียงบอกลาของอาจารย์จบลง เพื่อนๆ ในกลุ่มต่างหันมาคุยกัน เรื่องของการฉลองที่กำลังจะเกิดขึ้นภายในเย็นนี้
ทุกคนลงความเห็นว่าเราจะไปทานอาหารมื้อเล็กๆ ด้วยกัน ณ
ห้างดังแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว แล้วพูดคุยถึงชีวิตวัยเรียนที่ผ่านมา บ่นบ้าง
เครียดบ้าง เหนื่อยบ้าง แต่อีกแค่ปีเดียว พวกเราก็จะทำตามความฝันได้สำเร็จ
หลังจากทานอาหารเสร็จ
พวกเราต่างก็เดินเลือกซื้อของตามปกติของกลุ่มวัยรุ่นผู้หญิง
หยิบเสื้อร้านโน้นร้านนี้มาดู แต่ก็ไม่มีใครซื้ออะไร เมื่อถึงเวลากลับบ้าน พวกเราก็แยกย้ายกันกลับตามทางของตนเอง
หญิงสาวตัวเล็กร่างบางคนหนึ่ง กำลังเดินไปรอรถที่ป้ายรถเมล์ฝั่งตรงข้ามห้าง
พร้อมกับเดินแชท “ไลน์” มาตลอดทาง
หญิงสาวคนนี้ต่างเพลิดเพลินกับการค้นหาสติ๊กเกอร์ฟรีที่มีไม่รู้กี่ร้อยอัน
เพื่อส่งอวดเพื่อนในกลุ่ม บางครั้งพิมพ์ข้อความส่งไปไม่ถนัด ก็อัดเสียงพูดส่งเข้าไปในกรุ๊ปแทน
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเจ้าไลน์นี่มันช่างอำนวยความสะดวกให้แก่พวกเราจริงๆ
ขณะที่กำลังใจจดใจจ่ออยู่กับไลน์นั้น
เธอก็ไม่รู้เลยว่ากำลังมีสายตา 2 คู่จากมอเตอร์ไซค์ในมุมมืดคันหนึ่ง
เฝ้ามองดูพฤติกรรมของเธออยู่ห่างๆ หญิงสาวคนนั้นไม่ทันสังเกต ก็ยืนเล่นไลน์ไปตามปกติ
พร้อมกับขยับตัวขึ้นมาอยู่ริมฟุตบาทเพื่อจะได้มองรถเมล์ได้อย่างสะดวก ทำให้สถานการณ์ตอนนั้นดูเป็นใจให้กับคนร้ายเสียเหลือเกิน
และแล้วสิ่งที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น! มอเตอร์ไซค์คันดังกล่าว ขับสวนเลนถนนขึ้นมาด้วยความเร็ว
พร้อมกับ “กระชาก” มือถือของเธอ แต่คนร้ายยังไม่ทันคว้าไปเต็มมือ
หญิงสาวคนนั้นก็ดึงมือถือกลับมาด้วยสติที่รวบรวมได้อย่างรวดเร็ว เธอตกใจ และทำอะไรไม่ถูก
บริเวณป้ายรถเมล์แห่งนั้นก็ไม่ได้เปลี่ยว ผู้คนที่ออกจากห้างมารอรถก็ค่อนข้างเยอะ เธอเลยคิดว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น
หลังจากเกิดเหตุ เธอก็วิ่งขึ้นสะพานลอยอย่างรวดเร็ว
เพื่อจะกลับบ้านทางรถไฟฟ้าใต้ดิน เพราะมันเป็นทางเดียวที่จะทำให้เธอปลอดภัย
อย่างน้อยในสถานี ก็มี รปภ. ที่น่าจะให้ความช่วยเหลือกับเธอได้บ้าง
ระหว่างทางเธอคอยมองข้างหลังด้วยความหวาดระแวง กลัวคนร้ายจะย้อนกลับมาพร้อมกับอาวุธอีก
เมื่อถึงสถานี เธอก็พบว่ามือทั้งสองข้างนั้นมีบาดแผลจากเล็บของคนร้าย
ที่เกิดขึ้นระหว่างเธอกระชากมือถือกลับมา เสื้อนิสิตและเสื้อหนาวสีขาวต่างก็เปื้อนรอยเลือดจากมือของเธอเป็นจุดเล็กๆ เธอจึงรวบรวมสติที่มี โทรบอกเพื่อนคนหนึ่ง แล้วเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟังทั้งหมด
เมื่อเพื่อนทั้งกลุ่มรู้ จึงส่งข้อความมาให้กำลังใจเธออย่างต่อเนื่อง
จากเหตุการณ์ครั้งนั้น
ทำให้หญิงสาวลดการแชทผ่านไลน์ และระวังการใช้มือถือขณะเดินทางมากขึ้น
เพราะเธอเองก็ไม่รู้ว่า มันจะกลับมาเกิดขึ้นกับเธออีกเมื่อไหร่
หากในครั้งหน้าคนร้ายพกอาวุธมาด้วย เธอคงไม่โชคดีเหมือนครั้งนี้เป็นแน่ บทเรียนอันยิ่งใหญ่ได้สอนให้เธอรับรู้ว่า
เทคโนโลยีก็เป็นสิ่งที่ดี มันให้ความสะดวกสบาย ฟังก์ชั่นเยอะ สื่อสารได้รวดเร็วทันใจก็จริง
แต่มันก็เป็นเหมือนดาบสองคม หากเราไม่รู้จักใช้มันให้ถูกที่ถูกเวลา
เทคโนโลยีก็จะนำมาซึ่งอุบัติเหตุในรูปแบบต่างๆ อย่างที่เราไม่คาดคิด
ขอขอบคุณรูปภาพจาก : http://webboard.yenta4.com/topic/567959